การเทรดแบบใช้ปัจจัยพื้นฐาน และการใช้เทคนิคอลต่างกันยังไง

การเทรดในตลาด Forex มีสองวิธีหลักๆที่นักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ คือ การเทรดแบบใช้ปัจจัยพื้นฐาน และการใช้เทคนิคอล (Fundamental Analysis and Technical Analysis)

การเทรดแบบใช้ปัจจัยพื้นฐาน ((Fundamental Analysis)

การเทรดแบบใช้ปัจจัยพื้นฐานมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ข่าวสารและข้อมูลเศรษฐกิจที่มีผลต่อค่าเงิน ปัจจัยเหล่านี้อาจรวมถึง:

- ข้อมูลทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราการเติบโตของ GDP, อัตราการว่างงาน, และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

- นโยบายการเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย และการตัดสินใจของธนาคารกลาง

- ข่าวสารทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง และนโยบายรัฐบาล

นักลงทุนที่ใช้การวิเคราะห์พื้นฐานจะติดตามข่าวสารและรายงานทางเศรษฐกิจ เพื่อประเมินความสำคัญของปัจจัยต่างๆที่อาจส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน การเปิดตำแหน่ง(position) การเทรดจะขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ว่าข่าวสารหรือเหตุการณ์ใดจะส่งผลดีหรือเสียต่อสกุลเงินนั้นๆ

การเทรดแบบใช้เทคนิคอล (Technical Analysis)

ในทางตรงกันข้าม การเทรดแบบใช้เทคนิคอลมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์กราฟและข้อมูลราคาที่ผ่านมา ด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่น:

- กราฟราคา เพื่อติดตามแนวโน้ม

- อินดิเคเตอร์ เช่น MACD, RSI, และ Moving Averages

- แนวรับและแนวต้าน เพื่อหาจุดที่ราคาอาจกลับตัว

นักลงทุนที่ใช้การวิเคราะห์เทคนิคอลเชื่อว่าข้อมูลราคาในอดีตสามารถช่วยให้สามารถทำนายแนวโน้มในอนาคตได้ โดยมักจะเปิดตำแหน่งเมื่อเห็นสัญญาณที่ชัดเจนจากกราฟ

การเลือกวิธีการเทรด

การเลือกวิธีการเทรดระหว่างการวิเคราะห์พื้นฐานและการวิเคราะห์เทคนิคอลขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของแต่ละบุคคล บางคนอาจเลือกใช้การวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อลงทุนในระยะยาว ในขณะที่คนอื่นๆ อาจชอบใช้การวิเคราะห์เทคนิคอลเพื่อเกร็งกำไรในระยะสั้น

สรุป

ทั้งการวิเคราะห์พื้นฐานและการวิเคราะห์เทคนิคอลจะช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับกลยุทธ์การเทรด การเลือกวิธีการใดนั้นขึ้นอยู่กับความถนัดและเป้าหมายการเทรดของแต่ละบุคคล

การวิเคราะห์พื้นฐานมักจะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อค่าเงิน ในขณะที่การวิเคราะห์เทคนิคอลเหมาะสำหรับนักเทรดที่มองหาโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น